หมอคะ ทำไมน้องหมาถึงมีกลิ่นปาก แถมยังมีคราบเหลือง ๆ คล้ายกับคาราเมลติดเต็มฟันไปหมดเลย อันตรายช่องปาก เรื่องสำคัญที่กว่าจะรู้อีกทีก็…สายเสียแล้ว
ช่องปากและฟันของสัตว์เลี้ยง นอกจากจะมีหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหารเหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไปแล้ว มันยังเป็นแหล่งที่ใช้ระบายความร้อนออกจากร่างกายอีกด้วย เนื่องจากสัตว์เลี้ยงไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนในคน ดังนั้นช่วงอากาศร้อนอบอ้าวเราจะสังเกตได้ว่า น้องหมาจะนั่งอ้าปากแลบลิ้นออกมาอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง
นอกจากหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ช่องปากและฟันยังเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันภัยคุกคาม เช่น ใช้เห่ากรรโชก หรือกัดทำร้ายเมื่อรู้สึกถึงภัยอันตรายบางอย่าง ในแมวจะพบว่าน้องมักใช้เวลากับการเลียขน หรือที่บางคนเรียกว่าแมวแต่งตัว (Grooming) ซึ่งนั่นก็คือพฤติกรรมบางอย่างในสัตว์ที่ต้องการทำความสะอาดร่างกายของตัวเอง
รู้ได้อย่างไรว่าสัตว์เลี้ยงมีปัญหาช่องปากและฟัน
ช่องปากเป็นส่วนที่ยากต่อการสังเกตถึงความผิดปกติ เนื่องจากตัวสัตว์มักไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็นในช่วงเริ่มแรกของปัญหา ดังนั้นเพื่อช่วยให้เจ้าของสามารถสังเกตถึงความผิดปกติเหล่านี้ได้ หมอมีคำแนะนำดังนี้
1. ดูปริมาณการกินอาหารต่อวันที่เปลี่ยนไป
สัตว์เลี้ยงที่พบปัญหาช่องปาก บางตัวจะเริ่มกินอาหารได้ลดลงหรือปฏิเสธการกินอาหาร เนื่องจากความเจ็บปวดหรือมีการอักเสบในช่องปาก
2. มีกลิ่นปาก
กลิ่นปากถือเป็นหนึ่งในสัญญาณอันตรายของช่องปากได้เช่นกัน ดังนั้นหากพบว่าน้องเริ่มมีกลิ่นที่ปาก หมอแนะนำให้เจ้าของลองสังเกตความผิดปกติของช่องปากค่ะ
3. การบวมของผิวหนังรอบ ๆ ปาก
สัตว์เลี้ยงบางตัวที่พบความผิดปกติของช่องปากและมีความเจ็บปวดเกิดขึ้น เช่น จากแผลภายในช่องปาก โดยมากมักพบการบวมขึ้นของผิวหนังบริเวณนั้น การเข้าไปจับดูแผลที่บวม เจ้าของต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรใส่ถุงมือทุกครั้งที่ต้องการตรวจสอบปัญหาช่องปาก เพราะนอกจากเรื่องของความสะอาดแล้ว โอกาสที่น้องจะกัดหรือทำร้ายเจ้าของเพราะรู้สึกเจ็บปวดแผลก็สามารถเกิดขึ้นได้
4. เลือดออกในช่องปาก
แผลภายในช่องปาก บางครั้งอาจทำให้เกิดเลือดออก หรือพบการบวมของเหงือกได้ ซึ่งเจ้าของมักสังเกตความผิดปกติเหล่านี้ได้โดยง่าย
5. เคี้ยวอาหารผิดไปจากปกติ
สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจไม่ได้กินอาหารลดลงไป แต่เจ้าของสามารถสังเกตลักษณะอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น เคี้ยวอาหารผิดปกติไปจากเดิม มีน้ำลายไหลมากขึ้น หรือเวลาเคี้ยวอาหารมักมีเศษอาหารหล่นออกมาจากช่องปาก
ความผิดปกติที่พบได้บ่อยในช่องปากและฟัน
- ฟันหัก ซึ่งอาจมาจากอุบัติเหตุ ตกจากที่สูง ลื่นล้ม ฟันกระแทก
- พบเนื้องอกในช่องปาก
- มีคราบฟัน หรือหินปูนเกาะอยู่ที่ฟัน
- ฟันผุและมีการติดชื้อที่โพรงฟัน หรือมีฟันโยก
- ฟันน้ำนมไม่ยอมหลุด หรือมีฟันขึ้นนอกเหนือจากแนวฟันปกติ
- เพดานโหว่ ปากเเหว่ง
- กรามหักจากอุบัติเหตุ
- ภาวะเหงือกอักเสบอันต่อเนื่องมาจากการที่สัตว์เลี้ยงมีคราบหินปูน
แนวทางการดูแลช่องปากและฟัน
นอกเหนือจากพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาตรวจสุขภาพช่องปากและฟันกับคุณหมอเป็นประจำแล้ว การดูแลช่องปากและฟันของสัตว์เลี้ยงโดยเจ้าของก็มีส่วนความสำคัญมากไม่แพ้กัน
วิธีง่าย ๆ ในการปฏิบัติดูแลช่องปากสัตว์เลี้ยงมี 3 ข้อ ดังนี้
1. ฝึกความคุ้นเคยในการแปรงฟันให้สัตว์เลี้ยง
การใช้นิ้วเปิดดูมุมปากด้านข้างของน้องหมาน้องแมวเป็นประจำ จะเป็นการสร้างความคุ้นเคยอย่างหนึ่งให้กับสัตว์เลี้ยง เมื่อน้องเริ่มคุ้นชินแล้ว เจ้าของสามารถเปิดอ้าปากสัตว์เพื่อตรวจดูความผิดปกติภายในช่องปากและฟัน รวมถึงสามารถใช้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ปลอกนิ้ว หรือแปรงสีฟันเข้าไปทำความสะอาดฟันสัตว์ได้
เจ้าของควรเริ่มสอนให้สัตว์เลี้ยงคุ้นเคยกับอุปกรณ์ในการแปรงฟันตั้งแต่ยังเล็ก เพราะจะทำได้ง่ายกว่าการเริ่มต้นฝึกในสัตว์ที่โตเต็มวัยแล้ว การแปรงฟันสัตว์เลี้ยงควรทำวันละ 1 ครั้ง โดยมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกแปรงฟันดังนี้
- ไม้ก้านพันสำลี
- ผ้าก๊อส
- ปลอกสวมนิ้ว
- แปรงสีฟันสำหรับสัตว์
หลังการแปรงฟันแต่ละครั้ง เจ้าของอาจให้ขนมหรืออาหารกับน้องเป็นรางวัล เพื่อให้สัตว์เลี้ยงเกิดความรู้สึกที่ดีและไม่ขัดขืนเมื่อต้องมีการแปรงฟัน
2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ในคนกับสัตว์เลี้ยง
ยาสีฟันคนไม่เหมาะนำมาใช้ในการแปรงฟันสัตว์ เนื่องจากมีสาร Xylitol ที่ทำให้เกิดความเป็นพิษกับสัตว์เมื่อกินเข้าไป แนะนำให้เจ้าของเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันที่เจาะจงมาเพื่อสัตว์เลี้ยงจะดีกว่า
สำหรับยาสีฟันน้องหมาน้องแมวที่มีขายกันตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะพบว่าผู้ผลิตมักทำออกมาให้มีกลิ่นและรสคล้ายกับอาหารสัตว์ เช่นรสไก่ รสเนื้อ เป็นต้น เพื่อให้สัตว์เกิดความทรงจำที่ดีกับการแปรงฟัน เสมือนเป็นรางวัลหรือขนมอย่างหนึ่งให้กับสัตว์เลี้ยง
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสัตว์ที่พบได้ตามท้องตลาด
C.E.T.® Enzymatic Toothpaste ยาสีฟัน ซี.อี.ที. สูตรเอ็นไซม์ธรรมชาติ สำหรับสุนัขและแมว
ยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยงมี 3 รสชาติ ได้แก่ รสเนื้อ รสไก่ และรสวานิลา ออกฤทธิ์ในการควบคุมคราบฟัน ป้องกันการเกิดหินปูน ลดกลิ่นปาก ปราศจากฟลูโอไรด์ที่เป็นอันตรายต่อทางเดินอาหารสัตว์เลี้ยง สามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่ส่งผลต่อสุขภาพของสัตว์
3. ให้ขนมขัดฟันที่ลดการเกาะตัวของหินปูน
ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ขนมสัตว์เลี้ยงออกมาตามท้องตลาดหลายยี่ห้อ แต่ไม่ใช่ทุกสินค้าจะช่วยในเรื่องของความสะอาดช่องปากและฟันได้ ดังนั้นเจ้าของจึงควรศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด รวมถึงประสิทธิภาพในการลดการเกาะตัวของหินปูนก่อนเลือกซื้อมาให้น้อง ๆ ได้กิน
ตัวอย่างขนมขัดฟันสัตว์ที่พบได้ตามท้องตลาด
Veggiedent® FR3SH™ เวจจี้เดนท์ เฟรช ของขบเคี้ยว / ของว่างเพื่อสุขภาพช่องปาก สำหรับสุนัข
เวจจี้เดนท์ เฟรช ของว่างสำหรับสุนัขเพื่อสุขภาพช่องปาก ช่วยในการลดคราบฟัน และหินปูน ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นปาก ด้วยส่วนประกอบจากพืชธรรมชาติ (Healthy Ingredients) จึงไม่ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ดีต่อทางเดินอาหาร ด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ย่อยได้ง่าย
รวมถึงยังเสริมสารพรีไบโอติคส์ ช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในทางเดินอาหาร
คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนมสัตว์เลี้ยง
สำหรับขนมกินเล่นทั่วไปหากเจ้าของต้องการซื้อให้น้องเพื่อเป็นรางวัลบางอย่าง หมอมีคำแนะนำว่า ให้หลีกเลี่ยงการใช้ Rawhide หรือขนมที่มีส่วนประกอบของหนังสัตว์แปรรูป และไม่ควรนำผลิตภัณฑ์สังเคราะห์บางอย่างที่แข็งจนเกินไปมาให้น้อง เพราะอาจทำให้ฟันแตกหัก บิ่น หรือชำรุดได้
สุดท้ายนี้นอกจากการดูแลทำความสะอาดช่องปากและฟันของสัตว์เลี้ยงโดยเจ้าของเองแล้ว อย่าลืมพาน้องมาให้สัตวแพทย์ช่วยตรวจดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอนะคะ อย่างน้อยสุดปีละ 1-2 ครั้ง คุณหมออาจจะแนะนำให้ขูดหินปูนเเละขัดฟันหากมีคราบสกปรกสะสมเยอะจนเกินไป ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องมีการดมยาสลบ ทำให้เจ้าของบางคนค่อนข้างกังวลในการพาน้องมาทำฟัน แต่จริง ๆ แล้วปัจจุบันนี้การดมยาสลบถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีข้อดีหลายอย่าง นอกจากจะลดความเจ็บปวดและความเครียดของสัตว์เลี้ยงในระหว่างการขูดหินปูนและขัดฟันแล้ว ยังทำให้การเข้าถึงช่องปากของสัตว์เลี้ยงโดยคุณหมอมีความปลอดภัยและทำได้ทั่วถึงมากขึ้นด้วย
เขียนโดย: สพ.ญ. กรกช ศิริวิบูลย์ไชยกุล